how forex make money

Forex ทำเงินได้อย่างไร (ฟอเร็กซ์)

Forex ทำเงินได้อย่างไร การเทรดค่าเงินในตลาดฟอเร็กซ์ (Forex) รูปแบบการซื้อ-ขาย (เทรด) จะอยู่ในรูปแบบคู่สกุลเงิน (Currency Pair)  กำไรหรือขาดทุนขึ้นอยู่กับส่วนต่างของค่าสกุลเงินที่กำลัง Match กันอยู่ ณ ขณะนั้น

พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ การซื้อในราคาต่ำแล้วขายราคาสูง หรือการได้ขายในราคาสูงจากที่ซื้อมาราคาต่ำเป็นต้น ก็เหมือนกับการเทรดในตลาดหุ้นทั่ว ๆ ไป ถ้านักลงทุนท่านใดมีพื้นฐานการเทรดหุ้นมาก่อนแล้ว ก็สามารถมาต่อยอดเรียนรู้การเทรดค่าเงินในตลาดฟอเร็กซ์ได้โดยง่าย

 

hhh

 

รูปแบบการเทรด รวมทั้งการวิเคราะห์ ปัจจัยทางพื้นฐานและเทคนิค หรือปัจจัยอื่นๆ  มีความคล้ายคลึงกัน แต่ความแตกต่างกัน  จะอยู่ตรงที่ในตลาดฟอเร็กซ์ สามารถทำกำไรได้ทั้งสองทาง  คือทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง ตัวเลขจะบวกหรือลบ จะสูงหรือต่ำแค่ไหน ตรงนี้เก็บไว้ก่อน  เพราะจุดสำคัญที่เป็นเป้าหมายหลักของการทำกำไรในตลาดฟอรเร็กซ์นั้น ก็คือ ทิศทาง  ถ้าหากมีความเข้าใจตลาด วิเคราะห์เห็นแนวโน้ม  แล้วเลือกจับจุดให้ตรง แล้วเทรดให้เข้ากับจังหวะ ตามความผันผวนของตลาด โอกาสที่จะสร้างกำไรอันงดงาม ย่อมมีความเป็นไปได้สูง

 

ความหมายของคู่เงินที่กำลังแสดง(Forex)

ตัวอักษรย่อ สัญลักษณ์ และตัวเลข ที่กำลังแสดงในคู่สกุลเงินหนึ่งๆบ่งบอกอะไร ยังงัย?

 

ยกตัวอย่างคู่สกุลเงิน   EUR /USD = 1.1100 ? (อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนจากวันที่ 18/02/2016)

ความหมายก็คือ สกุลเงินที่อยู่ด้านหน้าเครื่องหมาย / (สแลช) เรียกว่า Base Currency ถือเป็นสกุลเงินหลักที่มีส่วนสำคัญในการซื้อ-ขาย นั้นก็คือ EUR (สกุลเงินยูโรของยุโรป)

ต่อมาสกุลเงินที่อยู่ด้านหลังเครื่องหมาย / (สแลช) เรียกว่า  Counter Currency นั่นก็คือ USD (สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ) ส่วนตัวเลข (1.1100) หลังเครื่องหมายเท่ากับ(=) ก็คือจำนวนอัตราแลกเปลี่ยนของ Counter Currency (USD) ที่มีค่าต่อ 1 หน่วย ของ Base Currency (EUR)

 

หลักการจำง่ายๆ ก็คือสกุลเงินตัวหน้า ( Base Currency) จะมีค่าเป็น 1 เสมอ และเป็นรากฐานสำคัญของการซื้อ-ขาย อย่างเช่นในตัวอย่างด้านบน  (EUR /USD = 1.1100) ความหมายก็คือ 1 ยูโรมีค่าเท่ากับ 1.1100 ดอลลาร์

 

ในการซื้อหรือขายสกุลเงินที่กำลังจับคู่กันอยู่  ต้องเข้าใจด้วยว่า ขณะที่เรากำลังซื้อ ก็คือเรากำลังขาย สกุลเงินที่กำลังจับคู่กันอยู่นั้น  และในกรณีขายก็เช่นกัน  และต้องเข้าใจด้วยว่า สกุลเงินหลักด้านหน้าที่เรียกว่า Base Currency คือ Basic เป็นรากฐานสำคัญของการซื้อขาย

 

การซื้อ-ขาย (เทรด) กำไร-ขาดทุน ดูจากตรงไหน ดูยังงัย ?

หลักการง่ายๆของการลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์ก็เหมือนกับการค้า หรือการลงทุนทั่วๆไปนั่นก็คือ ซื้อถูก ขายแพง ขายราคาแพงๆ พอราคาตกก็ซื้อมาเก็บไว้รอขายเวลาที่ราคามันขึ้น เช่น เหมือนการลงทุนซื้อทองเป็นต้น

 

 

ตัวอย่างการทำกำไรจาก FOREX

2016-02-24_19-20-2jjjjjj4

จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า นายจิ่มมี่ได้นำเงิน USD (ดอลลาร์) จำนวน 17,500 $ ไปซื้อเงิน GBP (ปอนด์)จำนวน 10,000 £ เก็บไว้ แล้วหลังจากนั้น 1 สัปดาห์ต่อมา เขาก็นำเงิน ปอนด์ 10,000 £ นั้นไปแลกคืน เงินดอลลาร์สหรัฐได้จำนวน 18,500 $ (ได้เยอะกว่าเดิม)

เมื่อหักลบจากที่ซื้อครั้งแรก ก็ได้กำไร1,000 $  กำไรมาจากไหน? กำไรก็มาจากที่ค่าเงิน GBP ของอังกฤษแข็งค่าขึ้น หรือจะว่าเพราะค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ อ่อนตัวก็ไม่ผิด ตามตัวอย่างจะเห็นว่าสกุลเงินหลัก(GBP) ที่เรียกว่า Base Currency นั้น ถือว่าเป็นรากฐานสำคัญ (Basic)ของการซื้อ-ขายคู่สกุลเงิน ส่วนมันสำคัญอย่างไร  ขอให้ค่อยๆทำความเข้าใจ ตามเนื้อหาบทความในหัวข้อต่อไป

 

ความหมายของ Long/Short

ในความหมายของตลาดฟอเร็กซ์  Long = การซื้อหรือ Buy  ส่วน Short = การขายหรือ Sell

  • Long คือการซื้อ Base Currency (ในตัวอย่างตาราง Base Currency คือ GBP) เก็บไว้ เพื่อรอขายเวลาที่มันราคาสูงกว่า การทำแบบนี้เรียกว่า Going long หรือ Long position หลักการจำง่ายๆก็คือ หากเราเชื่อว่าราคา Base Currency (GBP) จะสูงกว่า Counter Currency (USD) ก็เลือก Buy เสมอ เพราะ Long = Buy ถือเป็นการทำกำไรจากขาขึ้น
  • Short คือการขาย Base Currency (ในตัวอย่างตาราง Base Currency คือ GBP) ออกไปเพื่อรอซื้อกลับเวลาที่มันราคาต่ำกว่า การทำแบบนี้เรียกว่า going short หรือ short position หลักการจำง่ายๆก็คือ หากเราเชื่อว่าราคา Base Currency (GBP) จะลดลงต่ำกว่า Counter Currency (USD) ก็เลือก Sell  เสมอ เพราะ Short = Sell  เป็นการทำกำไรจากขาลง

 

ความหมายคำศัพท์ Bid/Ask  Spread

ภาพแสดงราคาคู่เงินจากโปรแกรมซื้อ-ขายฟอเร็กซ์ MT4,MT5

 

fftff forex ประเทศไทย forexinthai


Bid
คือราคาที่โบรกเกอร์เสนอให้เราขาย (Short,Sell)  ราคาที่ Bid จะต่ำกว่าราคาที่ Aks เสมอ Bid เป็นราคาจริง และเป็นราคาปัจจุบัน ที่ใช้ซื้อ-ขายในตลาดฟอเร็กซ์  ตำแห่นง Bid จะอยู่ทางด้านซ้ายเสมอ

ตามตัวอย่างข้างบน หากเราเห็นเศรษฐกิจอังกฤษถดถอยจะส่งผลให้เงินปอนด์GBP (Base Currency) อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์USD (Counter Currency)ในอนาคต  เราก็เลือกขาย (Sell 1.43323)  นั่นก็หมายความว่า ใน 1 ปอนด์ ที่เราขายไปจะได้เงิน 1.43323 ดอลลาร์ แล้วต่อมาหลังจากนั้น เงินปอนด์อ่อนค่าลงจริงๆตามที่คาดหมาย ผลที่ได้ก็คือกำไรเนาะๆนั่นเอง หรือเรียกว่าการทำกำไรจากขาลงก็ไม่ผิด

 

Ask คือราคาที่โบรกเกอร์เสนอให้เราซื้อ (Long,Buy)  โดยที่ Aks ก็เป็นราคาจริง และเป็นราคาปัจจุบัน ที่ใช้ซื้อ-ขายในตลาดฟอเร็กซ์ เช่นกันเหมือนกับ Bid โดยที่ตำแหน่ง Aks จะอยู่ด้านขวาเสมอ

ตามตัวอย่างข้างบน ยกตัวอย่าง หากเราเชื่อว่าเงินปอนด์ GBP (Base Currency) จะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลร์ USD (Counter Currency)ในอนาคต  เราจึงเลือกซื้อ (Buy 1.43389)  ก็หมายความว่า เราสามารถซื้อเงิน 1 ปอนด์ โดยใช้ 1.43389 ดอลลาร์ เวลาต่อมาหลังจากนั้นถ้าเงินเงินปอนด์ GBPแข็งค่าขึ้นจริงๆเราก็ได้กำไรจากการซื้อ-ขาย(เทรด)ครั้งนี้ซึ่งเหมือนกับตารางตัวอย่างข้างบนที่เป็นการทำกำไรจากขาขึ้น

จะสังเกตเห็นว่า ทุกๆครั้งที่ทำการซื้อ-ขาย คู่สกุลเงินที่กำลัง Match กันอยู่ จะเน้นไปที่สกุลเงินหลักตัวหน้า ที่เรียกว่า Base Currency  เพราะมันเป็น (Basic) รากฐานสำคัญของการซื้อขายครับ

 

Spread คืออะไร?

Spread คือหน่วย pip ที่นับได้จากส่วนต่าง ระหว่าง bid กับ ask    มันก็เป็นค่าธรรมเนียมในการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยน(forex) ที่โบรกเกอร์หักจากการเปิดออเดอร์ ของนักลงทุนนั่นเอง

 

ยกตัวอย่าง

gg

จากภาพตัวอย่าง ของคู่เงิน EUR/USD ถ้านำจำนวนจาก Bid มาลบ จำนวน Aks ( 1.11300 -1.1314) ผลที่ได้ก็คือ 14 pips ตรงนี่เองคือค่าธรรมเนียมที่เราต้องจ่ายทุกครั้งเมื่อทำการเปิดออเดอร์ ฉะนั้นการเลือกโบรกเกอร์ที่มี Spread น้อยๆจึงมีความสำคัญมาก และก่อนที่จะปิดหรือเปิดออเดอร์ แต่ละครั้งอย่าลืมคำนึงถึงค่า Spread ที่ต้องจ่ายด้วย

 

สรุป

ในบทความนี้เราได้รู้แล้วว่า ในตลาด Forex เราสามารถทำกำไร หรือหาเงินได้อย่างไร เข้าใจเรื่องคู่เงิน  และค่าสเปรด (Spread)  ,ค่า bid ,ask เข้าใจที่มาที่ไปของเงิน กำไร หรือ ขาดทุน มากจากไหน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญ ก่อนที่เราติดสินใจเข้ามาลงทุนในตลาด forex