เพื่อนๆ มักจะสงสัยและถามกันบ่อยๆ ว่าคู่เงินที่เราถืออยู่ หรือที่เราสนใจจะเข้าออเดอร์ ราคาจะขึ้นหรือลง (หนึ่งคำถามที่ชวนงวยงง? ทีเดียว) จะเข้าบาย หรือเชลดี?
ก่อนอื่นทางผู้เขียนขอแนะนำเบื้องต้น บนพื้นฐานขอการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงมากๆ เช่นนี้ ควรอยู่ในกระบวนการที่ตัวเองตัดสินใจเป็นหลัก กรณีอยากได้ข้อมูลเพิ่มขึ้น หรือสอบถามคนผู้รู้ หรือคนที่เราเชื่อว่าเก่ง เพื่อเสริมความมั่นใจในการลงทุน อันนี้ก็ไม่ผิดครับ แต่จะให้ดี เราควรฝึกมองราคา หรือทิศทางของตลาด ดูพฤติกรรม เป็นยังไง ดูภาพรวมในอดีต ดูแต่ล่ะช่วงเวลา ว่าสาเหตุที่ราคาขึ้นมากๆหรือลงมากๆ เกิดจากอะไร (ทุกอย่างต้องมีที่มาที่ไป) ราคาในแต่ล่ะไทมเฟรม มีรูปแบบแตกต่างกันอย่างไร ฯล อีกทั้งจะมีแผนสำรองยังไงหากเข้าออเดอร์แล้ว ราคาไม่ไปอย่างที่คิด กรณีนี้ถ้าจะเอาง่ายๆ ก็ตั้ง Stop loss ไปเลย หากมันไม่ไปอย่างที่คิดก็ตัดขั้นทุนไปเลยประมาณนี้ หรือจะตั้ง Stop loss แบบมีชั้นเชิงซับซ้อนขึ้นมาอีกหน่อย อันนี้ก็คงต้องอธิบายกันยาว เอาทีหลังแล้วกันครับ เอาเป็นว่าถ้าไม่อยู่หน้าจอ หรือขี้เกียจเฝ้าก็ตั้ง Stop loss ไว้ก่อนทุกครั้งที่เข้าออเดอร์นะครับ เพื่อประกันหรือรักษาชีวิตพอร์ตไว้ไม่ให้โดนล้าง หากโดนล้างบ่อยๆ ก็ถือว่า ไม่มีการพัฒนา ไม่มีการวางแผน อันนี้ก็ไม่ไหวครับ
ในบทความนี้จะมาพูดถึงการเช็ค หรือตรวจสอบทิศทางของราคา ว่ามันควรจะไปทางไหน เอาแบบง่ายๆพื้นๆ ความจริงมองตาเปล่าก็น่าจะพอดูออกครับ หากใครมีภูมิหลัง หมายถึงได้ศึกษา อ่านเรื่องการวิเคราะห์ เบื้องต้น พวก อินดี้ รูปแบบราคา การเทรดแบบ Price action
ทองจะไปทางไหน ดอลล่าจะขึ้นหรือลง ฯล คำถาม?
ตัวอย่างเช็คราคาโดยดูตาเปล่า จากข้อมูลในอดีต
คำตอบ: ขึ้นอยู่กับคุณว่ามองตลาดอย่างไร
เช่นมองจากอินดี้อิชิโมกุ ราคากำลังจะทะลุก้อนเมฆมีโอกาศดีดตัวขึ้น(ขาขึ้น)
- มองจากหน้าตารูปร่างที่เป็นไซด์เวย์ อยู่ในเทรนด์ขาขึ้น
- หรือมองราคา เป็นรูปตัว M (Double Top) ก็อาจดีดตัวลง หรือขึ้นก็ได้
- มองตามข่าว หรือตาม Event ต่างๆ ที่มันอิมแพค ก็อาจจะเป็นได้ทั้งขึ้นหรือลง
- ที่สำคัญ คุณดูที่ไทมเฟรมไหน เพราะในไทเฟรมหนึ่งดูท่ามันน่าจะขึ้น แต่แต่ในขณะที่อีกไทมเฟรมมันกำลังจะลง